เมนู

ภูตญาณทัสสนะเป็นอานิสงส์ สุขมีสมาธิเป็นผล มีสมาธิเป็นอานิสงส์
ปัสสัทธิมีสุขเป็นผล มีสุขเป็นอานิสงส์ ปีติมีปัสสัทธิเป็นผล มีปัสสัทธิ
เป็นอานิสงส์ ปราโมทย์มีปีติเป็นผล มีปีติเป็นอานิสงส์ อวิปปฎิสาร
มีปราโมทย์เป็นผล มีปราโมทย์เป็นอานิสงส์ ศีลที่เป็นกุศลมีอวิปปฏิสาร
เป็นผล มีอวิปปฏิสารเป็นอานิสงส์ ด้วยประการดังนี้ ดูก่อนภิกษุทั้ง-
หลาย ธรรมทั้งหลายย่อมหลั่งไหลไปสู่ธรรมทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายย่อม
ยังธรรมทั้งหลายให้บริบูรณ์ เพื่อจากเตภูมิกวัฏอันมิใช่ฝั่ง ไปถึงฝั่งคือ
นิพพาน ด้วยประการดังนี้แล.
จบเจตนาสูตรที่ 2

อรรถกถาเจตนาสูตรที่ 2


เจตนาสูตรที่ 2

พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า น เจตนาย กรณียํ ได้แก่ไม่คิด กะ กำหนดกระทำ. บทว่า
ธมฺมตา เอสา ได้แก่ นั่นเป็นสภาวธรรม นี้เป็นนิยมแห่งเหตุ. บทว่า
อภิสนฺเทนฺติ ได้แก่ให้เป็นไป. บทว่า ปริปูเรนิติ ได้แก่ ทำให้บริบูรณ์.
บทว่า อปราปรํ คมนาย ได้แก่ เพื่อประโยชน์แก่การไปยังฝั่งโน้น
คือพระนิพพาน จากวัฏฏะที่เป็นไปในภูมิ 3 ซึ่งเป็นฝั่งนี้.
จบอรรถกถาเจตนาสูตรที่ 2

3. สีลสูตร


ว่าด้วยอวิปปฏิสารไม่มีแก่ผู้ทุศีล มีแก่ผู้มีศีลสมบูรณ์


[3] พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อวิปปฏิสารชื่อว่ามีเหตุอันบุคคล
ผู้ทุศีลมีศีลวิบัติขจัดเสียแล้ว เมื่ออวิปปฏิสารไม่มี ปราโมทย์ไม่มี ปีติชื่อว่า